เราเรียนรู้และทำอะไรได้บ้างจากกรณีทันตแพทย์ผิดสัญญาการใช้ทุนและทำให้ผู้ค้ำประกันเดือดร้อน?
=สิ่งที่เรียนรู้ได้ชัดเจน=
ท่านพุทธทาสให้นิยามการศึกษาแบบหมาหางด้วนไว้ในหนังสือหลายเล่มว่า เป็นการสอนตามก้นฝรั่งที่เพียงสอนให้มีวิชาทำมาหากินเลี้ยงชีพ แต่ไม่ได้สอนการพัฒนาจิตใจให้เป็นมนุษย์
การพัฒนาจิตใจที่ท่านพุทธทาสพูดถึงนี้เรียกโดยย่อคือ “การเจริญสติ” หรือ
วิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง
=เรียนรู้ “ธรรมะ” ที่เกี่ยวข้องกับข่าว=
1. มีการผิดศีลข้อ 2 คือมีเจตนาที่จะ “ลักขโมยหรือฉ้อโกง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการโกงคนหมู่มาก
คือโกงภาษีประชาชนที่ส่งไปเรียน การโกงคนยิ่งจำนวนมากเท่าใดก็จะต้องรับวิบากกรรมหนักมากเท่านั้น
2. มีการผิดศีลข้อ 4 คือ
มีเจตนาที่จะ “กล่าวคำเท็จให้ผู้อื่นเดือดร้อน”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เดือดร้อนคือมีพระคุณที่ช่วยเสียสละค้ำประกันให้ตนได้มีโอกาสไปเรียน วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ
4 มีมากมาย แต่ที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ ย่อมโดนคนอื่นโกหกหลอกลวงกล่าวคำเท็จใส่ตนให้ตนเองเดือดร้อนเช่นกันในที่สุด
3. เป็นการกระทำที่เรียกว่า “อกตัญญู” ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก
เล่มที่ ๑๙
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
มีชาดกหนึ่งเรียกว่า “อกตัญญูชาดก”
พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า
“...ผู้ใดอันคนอื่นทำความดี ทำประโยชน์ให้ในกาลก่อนแต่ไม่รู้สึกคุณ เมื่อมีกิจเกิดขึ้นในภายหลัง
ย่อมไม่ได้ผู้ช่วยเหลือ...”
อนึ่ง
การอกตัญญูในข่าวนี้ไม่เพียงแต่เป็นการอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณที่เกี่ยวข้อง แต่ยังอกตัญญูต่อแผ่นดินอีกด้วย คนเช่นนี้ย่อมไม่ได้รับความเจริญในชีวิต
=ปล่อยให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม=
กรรมทำหน้าที่ของมันเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ว่าผู้ทำกรรมนั้นจะหลีกหนีไปที่ใด จะไปเกิดใหม่อยู่ภพใดชาติใด กรรมก็ย่อมตามไปจนเจอ ดังพระพุทธภาษิตที่ว่า “นตฺถิ กมฺมสมํ
พลํ แรงใดเสมอด้วยแรงกรรม ไม่มี”
ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นต้องไปคิดอาฆาตมาดร้ายจองเวรจองกรรม สาปแช่งด่าทอทันตแพทย์ในข่าว เพราะอย่างไรเสียเธอผู้นั้นต้องได้รับกรรมของเธอไปอย่างแน่นอน
=สิ่งที่ควรทำเพื่อตนเองและเพื่อสังคมไทย=
สิ่งที่เราทำได้ก็คือการน้อมนำมาสอนตนเองว่า
ถ้าเป็นเราเราจะไม่มีวันทำเช่นนั้นเด็ดขาด
เพราะผู้ที่จะประสบความสุขและความสำเร็จอย่างแท้จริงในชีวิต คือผู้ที่ทำดีเท่านั้น
เพราะผู้ที่จะประสบความสุขและความสำเร็จอย่างแท้จริงในชีวิต คือผู้ที่ทำดีเท่านั้น
แต่ “สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง” ก็คือ การช่วยกันรณรงค์ให้สังคมไทยเข้าใจเสียทีในความสำคัญของการบรรจุการเจริญสติเข้าไปในหลักสูตรการศึกษา เพราะการเจริญสติเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่พระพุทธองค์ตรัสรับรองว่าจะสร้างคุณธรรมให้เกิดขึ้นในใจคนได้เองอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องไปท่องตำราที่ไหน
ซึ่งข้อนี้สามารถพิสูจน์ได้ เพราะใครก็ตามที่เคยไปเข้าคอร์สการเจริญสติตามหลักสติปัฏฐาน
4 อย่างน้อย 7 คืน 8 วันจะสัมผัสได้ด้วยตนเองว่า
คุณธรรมข้อแรก ๆ ที่จะเกิดขึ้นในใจของผู้ที่ฝึกอย่างถูกต้องก็คือความกตัญญู
และความสำรวมระวังยิ่ง ๆ ขึ้นไปในศีล 5 นั่นเอง
หวังว่าสังคมไทยจะไม่ต้องมาเรียนธรรมะจากเหตุการณ์ทำนองนี้อีก
-------------------------------------------------------------------
เชิญสนับสนุนหนังสือ
“ออกกำลังใจ” ของดร.ณัชรได้ที่นี่ http://goo.gl/V2NIMn
-------------------------------------------------------------------
สนใจฝึกเจริญสติคลิกที่นี่ http://goo.gl/ALKOvv
-------------------------------------------------------------------
เพื่อไม่ให้พลาดโพสต์ดี
ๆ จากทางเพจ
1. ใส่อีเมล์ของท่านในช่อง “Follow by
Email รับการแจ้งโพสต์ใหม่ในอีเมล์ของคุณ” ในช่องท้ายบทความและกด
“submit”
2. สำหรับ Facebook กรุณากด Get Notification (“รับการแจ้งเตือน”)
ใต้ปุ่ม Like (“ถูกใจ”) ที่หน้าเพจ
“ดร ณัชร” ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
3. Add LINE ID @dr.nash (ต้องมีเครื่องหมาย @ นำหน้า)
-------------------------------------------------------------------
Cr ภาพ clker
Cr ภาพ clker