Monday, January 25, 2016

สิ่งดี ๆ ที่เราเรียนรู้ได้จากคุณปอ





สิ่งดี ๆ ที่เราเรียนรู้ได้จากคุณปอมีอะไรบ้าง?


ซีรี่ส์ “เรื่องดี ๆ จากดร.ณัชร” เรื่องที่ 86 วันนี้ขอนำเสนอเรื่อง “เรียนรู้จากคุณปอ”

ใคร ๆ ก็รู้สึกสะทกสะท้อนใจกับข่าวการจากไปของคุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ แต่ผู้เขียนคิดว่าเจ้าตัวคงจะดีใจกว่าแน่ถ้าพวกเราได้ใช้โอกาสนี้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากชีวิตของเขาด้วย

ผู้เขียนได้รู้จักคุณปอครั้งแรกเมื่อไปดูละครเฉลิมพระเกียรติ “พระมหาชนก” ที่สร้างขึ้นจากพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ละครเรื่องนี้ได้เชื่อมโยงเรื่องราวของพระมหาชนกเข้ากับพระกรณียกิจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงและการเกษตรที่ยั่งยืน ตลอดถึงการทรงด้วยทศพิธราชธรรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

ตัวละครเอก คือ คุณปอ ต้องเล่นอย่างทุ่มเทมาก บางฉากต้องลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบจริง ๆ

เมื่อละครจบ เขาและผู้แสดงนำอื่น ๆ ก็นั่งเรือเล็กข้ามมาจากฝั่งเวทีกลางน้ำเพื่อขึ้นมาทักทายกับผู้ชม เดินผ่านไปในแถวที่นั่งต่าง ๆ

สิ่งที่ผู้เขียนได้เห็นอย่างใกล้ชิดคือชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงใหญ่ดูสง่าเดินมายกมือไหว้ขอบคุณผู้ชมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หยุดให้ทุกคนได้ถ่ายรูปด้วยอย่างจุใจ และไม่มีสีหน้าเหน็ดเหนื่อยเลยแม้จะเพิ่งเล่นละครที่ต้องทั้งร้อง เล่น เต้น กระโดด และว่ายน้ำมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ผู้เขียนเห็นแต่ความภาคภูมิใจ ความปลื้มใจ และความสุขบนสีหน้าของคุณปอ

เมื่อคุณปอเข้าโรงพยาบาลและมีผู้นำประวัติชีวิตเขามาเขียนถึงกันอย่างแพร่หลายผู้เขียนจึงเข้าใจมากขึ้นว่ารอยยิ้มที่ปลาบปลื้มและภาคภูมิใจของคุณปอวันนั้นมีที่มาอย่างไร

คุณปอ ทฤษฎี รักในหลวงอย่างสุดหัวใจ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “...ในหลวงเป็นต้นแบบเรื่องการทำงานหนักครับ ในหลวงทำงานหนัก นี่คือสิ่งที่ผมยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ไม่ท้อที่จะทำ...”

ที่สำคัญคุณปอได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงและการเกษตรที่ยั่งยืนของพระองค์ท่านไปลงมือทำจริง ๆ ด้วยการทำที่เก็บน้ำและการเกษตรอินทรีย์ในที่นาของเขา

นอกจากนี้ยังมอบที่ดินจำนวนไม่น้อยให้ชาวบ้านจำนวน 200 คนแถวบ้านเกิดเขาได้ใช้เป็นที่ทำกินฟรี ๆ โดยไม่คิดเงินใด ๆ และทุกครั้งที่กลับไปเยี่ยมบ้านเขาก็ยังนำเสื้อผ้า สิ่งของ เครื่องใช้ต่าง ๆ ไปมอบให้เกษตรกรเหล่านั้นด้วย

“มันคือการให้โอกาสคนครับ ถ้าเก็บไว้ทำเองมันคงไม่ได้อะไรเยอะหรอกครับ แบ่ง ๆ กันทำ แบ่ง ๆ กันกินจะได้อยู่กันอย่างมีความสุขครับ” คุณปอเคยให้สัมภาษณ์ไว้

การให้ “โอกาส” กับผู้คนของคุณปอนั้นรวมถึงการให้ "โอกาสต่อชีวิต" ด้วย เขาได้แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่ก่อนป่วยว่าจะบริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดเพื่อต่อชีวิตผู้อื่น ล่าสุดทีมแพทย์รามาฯ ได้เขียนบันทึกว่าคุณปอได้ยินยอมให้ผ่าร่างตนเองเมื่อจากไปแล้วเพื่อการเรียนรู้และยกย่องว่าคุณปอเปรียบเป็น “ครูแพทย์” ท่านหนึ่ง

มีนิตยสารฉบับหนึ่งได้สัมภาษณ์คุณปอเอาไว้เนื่องในวันพ่อเมื่อหลายปีที่แล้วว่าเขาสนิทกับคุณพ่อของเขาไหม เขาตอบว่าครอบครัวเขาสนิทกันทั้งบ้าน ผู้เขียนคิดว่าครอบครัวที่อบอุ่นนี้เองมีส่วนมากในการสรรสร้างบุคคลคุณภาพอย่างคุณปอขึ้นมาในสังคมไทยเรา

เมื่อมีข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษแก่คุณปอ แม้ผู้เขียนจะไม่ใช่ญาติมิตรของครอบครัวคุณปอก็อดน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณไม่ได้

“พ่อ...มองเห็นพวกเราเสมอ...”

ทันทีที่ได้ข่าวนั้น คำฉันท์บทหนึ่งก็วาบขึ้นมาในใจ

“...พฤษภาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา...”

ขอระลึกถึงการจากไปของคุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ขอให้เรื่องราวของชีวิตคุณเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่เป็นพ่อแม่เพียรรักษาครอบครัวไว้ให้อบอุ่น และสอนลูกให้เติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพ เป็น “ผู้ให้” แก่สังคมจนถึงวาระสุดท้ายเช่นนี้

และขอให้คนไทยเรียนรู้ที่จะยึดในหลวงเป็นแบบอย่างในการทำงานอย่างแท้จริงเหมือนคุณปอ

ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ การจากไปของคุณปอก็นับว่าไม่สูญเปล่าแล้ว!

Cr ภาพ welovethaiking.com

No comments:

Post a Comment