ซีรี่ส์ “เรื่องดี
ๆ จากดร.ณัชร” เรื่องที่ 95
สัปดาห์ที่แล้วก่อนเดินทางไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่มูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่ ผู้เขียนได้มีประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เนื่องจากเวลาที่ไฟล์ทจะถึงเชียงใหม่นั้นใกล้เคียงกับเวลาเริ่มการอบรมมาก ผู้เขียนจึงตัดสินใจใส่ชุดขาวสำหรับปฏิบัติธรรมไปจากบ้านเสียเลยเพื่อประหยัดเวลาเปิดกระเป๋าเปลี่ยนชุดเมื่อไปถึงศูนย์วิปัสสนา
เมื่อเดินเข้าไปเช็คอินกระเป๋า ผู้เขียนก็ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่กราวนด์ของการบินไทยพร้อมกับสบตาและยิ้มให้อย่างจริงใจ เธอรีบรับไหว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง ดูออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่ผู้โดยสารชิงไหว้เธอก่อน
เมื่อเห็นผู้เขียนใส่ชุดขาว
แถมยังโหลดเบาะนั่งสมาธิขึ้นเครื่องไปพร้อมกระเป๋าด้วย เธอก็ถามอย่างเกรงใจว่า “ขอถามหน่อยค่ะ การแผ่เมตตานี้จำเป็นต้องทำตอนหลับตานั่งสมาธิหรือเปล่าคะ?”
ผู้เขียนยิ้มให้เธออีกครั้งแล้วบอกว่า
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ
จะแผ่ในอิริยาบถใดก็ได้
ลืมตาก็ได้
แต่แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสนั่งสมาธิหรือทำบุญกุศลทำคุณงามความดีใด ๆ
ก่อนการแผ่เมตตาก็จะยิ่งส่งผลดี
เพราะคุณสามารถอุทิศบุญกุศลให้ผู้นั้นได้อีกด้วย”
เธอตั้งใจฟังด้วยสีหน้าที่ผู้เขียนรู้สึกว่า
เธอคงมีเรื่องกังวลใจอะไรสักอย่างแล้วอยากจะแผ่เมตตาให้กับใครสักคนอย่างมาก
ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าถามคนแปลกหน้าในชุดขาวคนหนึ่งเป็นแน่ ดังนั้นผู้เขียนจึงตัดสินใจว่าจะให้กำลังใจเธอ
“การทำกุศลนั้นไม่จำเป็นต้องทำทานด้วยเงินทองเสมอไปด้วยนะคะ เพียงแค่การให้รอยยิ้ม ให้เวลา ให้คำแนะนำ
หรือให้ความช่วยเหลือคนอย่างจริงใจนั้นก็นับเป็นการให้ เป็นสิ่งที่ดีงาม
และเป็นกุศลในตัวอยู่แล้ว”
“จะว่าไปแล้วงานที่คุณทำนี้ก็เป็นการทำคุณงามความดีอย่างหนึ่งนะคะเพราะคุณได้ช่วยเหลือคนช่วยอำนวยความสะดวกให้คนอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นคุณจึงสามารถทำงานไปแผ่เมตตาให้ผู้โดยสารไปด้วยก็ยังได้ค่ะ”
“เช่น
คุณอาจจะส่งความปรารถนาดีจากใจไปให้เขา พร้อมกับนึกในใจว่า ขอให้ท่านผู้โดยสารท่านนี้จงเป็นสุข ๆ
เถิด ขอให้คุณเดินทางด้วยความปลอดภัย อย่างนี้ก็ได้ค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเธอยังตั้งใจฟังอยู่อย่างตาโตด้วยความสนอกสนใจ ผู้เขียนจึงให้กำลังใจปิดท้ายว่า
“งานของคุณนี้ดีจังนะคะ
ได้ทำบุญทำกุศลด้วยการช่วยเหลือคนอยู่ตลอดเวลา
ขออนุโมทนาด้วยค่ะ”
แล้วก็ยกมือไหว้อนุโมทนาเธออย่างจริงใจพร้อมรอยยิ้มอีกทีก่อนจะหยิบ boarding pass ขึ้นมาเตรียมเดินกลับออกไป
เจ้าหน้าที่ท่านนั้นรีบยกมือไหว้กลับทันทีด้วยสีหน้าที่สุขใจอย่างเห็นได้ชัด
เธอยิ้มกว้างสดใสแถมยังพนมมือค้างไว้เมื่อผู้เขียนเข็นรถ trolley เดินจากมาอีกด้วย
ประสบการณ์นี้ทำให้มีผู้มีความสุขถึงสองคน
คือเจ้าหน้าที่ท่านนั้น และผู้เขียนเอง
เมื่อนึกย้อนกลับไปผู้เขียนคิดว่าประสบการณ์การพูดคุยแลกเปลี่ยนดี ๆ
นี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าผู้เขียนไม่ได้ยกมือไหว้ สบตา
พร้อมกับยิ้มให้เจ้าหน้าที่ท่านนั้นอย่างจริงใจก่อนตั้งแต่แรก
เธอคงสัมผัสได้แน่นอนว่าผู้เขียนไหว้เธอด้วยความจริงใจจริง ๆ
เพราะเห็นคุณค่าของงานที่เธอทำ
และเป็นการขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความช่วยเหลือที่เธอจะมอบให้ด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือเธอสัมผัสได้นั่นเองว่าผู้เขียน “มาดี” และมอบความเป็นมิตรให้
การไหว้เป็นวัฒนธรรมอันงดงามของไทยที่สามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้หลายอย่าง
สร้างความอบอุ่นให้กับการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องไหว้อย่างนอบน้อมด้วยความจริงใจจริง ๆ
ไม่ใช่เป็นเพียงกิริยา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้ประสบการณ์ดี ๆ
จากการไหว้ผู้ที่จะให้บริการเราก่อน
ถ้าไม่เชื่อลองไปทำธุรกรรมที่ธนาคารใกล้ ๆ คุณแล้วชิงไหว้เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้มก่อนก็ได้
การไหว้ของคุณอาจช่วยพลิกจิตของพนักงานธนาคารที่กำลังเหนื่อยล้าคนหนึ่งให้มีความสุขขึ้นมาได้ ผู้เขียนรับประกันว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารท่านนั้นจะไหว้คุณและยิ้มตอบกลับมาอย่างสดชื่นกว่าปกติทีเดียว
ใครจะรู้
นั่นอาจจะเป็นความประทับใจหนึ่งเดียวที่เธอได้รับจากการทำงานในวันนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า
ที่ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยมาทุกวันนี้ได้ก็เพราะคนไทยยัง “ให้” กันอยู่
เรามา “ให้ความรู้สึกดี ๆ” กับผู้อื่นด้วยการไหว้อย่างจริงใจพร้อมรอยยิ้มกัน ไม่แน่ว่านั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ
บางอย่างที่มหัศจรรย์เกินที่คุณจะคาดคิดก็ได้
-------------------------------------------------------------------
เชิญสนับสนุนหนังสือ
“ออกกำลังใจ” ของดร.ณัชรได้ที่นี่ http://goo.gl/V2NIMn
-------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------
สนใจฝึกเจริญสติคลิกที่นี่ http://goo.gl/ALKOvv
-------------------------------------------------------------------
เพื่อไม่ให้พลาดโพสต์ดี
ๆ จากทางเพจ
1. ใส่อีเมล์ของท่านในช่อง “Follow by
Email รับการแจ้งโพสต์ใหม่ในอีเมล์ของคุณ” ในช่องท้ายบทความและกด
“submit”
2. สำหรับ Facebook กรุณากด Get Notification (“รับการแจ้งเตือน”)
ใต้ปุ่ม Like (“ถูกใจ”) ที่หน้าเพจ
“ดร ณัชร” ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
3. Add LINE ID @dr.nash (ต้องมีเครื่องหมาย @ นำหน้าคำว่า dr.nash)
-------------------------------------------------------------------
Credit ภาพ pantip
Credit ภาพ pantip